วันอังคารที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2557

น้ำส้ม



น้ำส้ม
น้ำส้มคั้น 

การเตรียมน้ำส้มนั้น ปกติแล้วน้ำส้มคั้นจะใช้ส้มเขียวหวานผลใหญ่ เพราะส้มเขียวหวานผลใหญ่จะให้น้ำส้มที่มีรสชาติหวาน สามารถคั้นเอาน้ำรับประทานได้ทันที หรือจะเติมเกลือล็กน้อยเพื่อเพิ่มรสชาติก็ได้ เมื่อเตรียมเสร็จแล้วเทใส่แก้วพร้อมเสิร์ฟ (ปกติแล้วแก้วที่ใส่จะเป็นแก้วเปล่าไม่ใส่น้ำแข็งเพราะน้ำส้มจะมีรสหวานอ่อนๆ ถ้าเติมน้ำแข็งลงไปอีกจะทำให้น้ำส้มจืดเสียรสชาติ)


น้ำส้มปั่น 
ส้มที่ใช้ในการทำน้ำส้มปั่นจะใช้ส้มเขียวหวานผลเล็ก (หรือที่ภาษาตลาดเรียกว่าส้มคั้นน้ำ) ส้มดังกล่าวจะให้น้ำส้มที่มีรสออกเปรี้ยว สาเหตุที่ใช้ส้มเปรี้ยวในการปั่นเพราะถ้าใช้น้ำส้มที่มีรสหวานอ่อนๆ จากธรรมชาติมาปั่นรวมกับน้ำแข็งจะทำให้ได้น้ำส้มที่มีรสจืดตามที่ได้บอกไว้ในข้างต้น น้ำส้มปั่นสามารถทำได้โดยคั้นน้ำส้มจนได้ปริมาณตามต้องการ จากนั้นเทใส่เครื่องปั่นที่ใส่น้ำแข็งไว้ จากนั้นเติมน้ำเชื่อมกับเกลือ แล้วปั่นประมาณ 30 วินาทีจะได้น้ำส้มปั่นตามต้องการ
ปกติในร้านอาหารหรือภัตตาคารมักจะเสิร์ฟน้ำส้มคั้นโดยเทใส่แก้วใสพร้อมกับมีชิ้นส้มหั่นแว่น 1 แว่นเหน็บอยู่ที่ปากแก้ว

น้ำส้มคั้นสดดื่มทุกวันเป็นประโยชน์


   1.เสริมสร้างกระดูก น้ำส้มสามารถให้แคลเซียม และวิตามินดีแก่ร่างกายได้ดีพอๆกับนม และแคลเซียมจะไปเสริมสร้างกระดูก
   
2.คอลลาเจนในน้ำส้มช่วยซ่อมแซม ส่วนที่สึกหรอของร่างกาย ให้ผิวมีความยืดหยุ่น ไม่แห้งแตก และยังช่วยสมานแผลหลังผ่าตัด แผลไฟไหม้ ให้หายเร็วและแผลเรียบเนียนขึ้น
 
  3.ช่วยรักษาโรคหัวใจ  เพิ่มคอเลสเตอรอลส่วนดี ป้องกันหลอดเลือดหัวใจตีบได้ แล้วในน้ำส้มมีโพแทสเซียมสูง ช่วยลดความเป็นความดันโลหิตสูงและเส้นเลือดในสมองอุดตันได้ดี
 
  4.ช่วยป้องกันโรคมะเร็ง  น้ำส้ม เรามักจะผ่าส้มออกเป็นสองซีก แล้วคั้นจะมีรสชาติของเปลือกออกมาด้วย รสชาติที่ได้จากเปลือกส้มจะมีสาร ไลมอนอยด์ สามารถต้านมะเร็งในช่องปาก คอ ปอด กระเพาะอาหาร ลำไส้ ผิวหนัง ตับ และเต้านม เป็นต้น


5.ป้องกันโรคนิ่ว การดื่มน้ำส้มป้องกันการเกิดนิ่วในไต การดื่มน้ำส้มคั้นจะเพิ่มประมาณของสารซิเตรต ในน้ำปัสสาวะมีความเป็นกรดลดลง ลดการตกผลึกของกรดยูริก และแคลเซียมออกซาเลท ซึ่งเป็นส่วนจะทำให้เกิดก้อนนิ่วจึงลดการเสี่ยงในการเกิดโรคนิ่วในไตได้

ผีเสื้อ



ประวัติผีเสื้อ




ผีเสื้อเป็นแมลงที่ได้ขึ้นชื้อว่ามีปีกแสนสวย จัดเป็น แมลงที่สวยที่สุดในโลกมีสีสันสอดประสาน

กันอย่างงดงาม

มีหลากสีหลายลายเป็นที่น่าอัศจรรย์ กรดูผีเสื้อนั้นสนุก แต่ต้องใจเย็นค่อยๆ เดินค่อยๆตามดู

และดูอย่างสงบ

 เพราะผีเสื้อไวต่อการเคลื่อนไหวและยังตื่นต่อสีสันฉูดฉาด ดังนั้น ผู้ที่เดินป่าชมผีเสื้อ จึงต้อง

แต่งตัว ด้วยสีทึมๆ
     
 ที่เรียกว่าสีเอิร์ธโทน เช่น สีดำ สีน้ำตาลเพื่อจะได้ไม่ไปรบกวนวิถีชีวิตของเหล่าผีเสื้อนั่นเอง   

 ผีเสื้อมีทั้งปี มีทุกฤดูกาล มีทุกแห่งหนของโลก ทั้ง บริเวณภูเขาสูงอากาศหนาวเย็นทั้งในทะเล

ทรายอากาศร้อนผ่าวทั้งในทีชื้นตามป่าเขาเขตมรสุมเราจึงพบผีเสื้อได้ทั้งในป่าเบญจพรรณ  

ป่าไผ่ ทุ่งหญ้าป่าดิบชื้น ป่าดิบแห้ง ป่าชายแลนตามโป่งดิน ตามริมน้ำ  ริมทะเล ตามมูลสัตว์  

ตามบ้านเรือน ส่วนชนิดของผีเสื้อที่พบเห็น  ขึ้นอยู่กับต้นไม่อันเป็นแหล่ง







อาหารของตัวหนอนผีเสื้ออย่างยิ่งเพราะเหตุนี้เอง เราจึงสามารถเพาะเลี้ยงหรือทำฟาร์มผีเสื้อ

ได้ ด้วยการปลูกต้นไม้อันเป็นแหล่งอาหารของตัวหนอนของผีเสื้อแต่ ดูผีเสื้อให้กระจ่างตา ให้

จะจะตา ก็ต้องดูยามฤดู ผสมพันธของผีเสื้อซึ่งผีเสื้อแทบทุกชนิดะจผสมพันธุ์กันในช่วง

ปลายของฤดูฝนประมาณเดือนมิถุนายนกรกฎราคมและสิงหาคม เราจะพบผีเสื้อตามสุมทุมพุ่ม

ไม้ บนดิน ริมทางเดินในป่า มากมาจริงๆ เกาะกันนิ่งๆ แม้เราจะเดินผ่านก้ไม่ขยับตัว ทำให้เรา

พินิจความงามสีสันของปีกผีเสื้อได้อย่างเต็มที่ ผีเสื้อเป็นแมลงพันธุ์บริสุทธิ์ จะไม่ผสมข้ามพันธุ์

กันเด็ดขาด  เพราะอวัยวะเพศของตัวผู้และตัวเมียถูกสร้างขึ้นมา อย่างเหมาะเจาะสอดคล้อง

กันเฉพาะในสายตาพันธ์นั้นๆ ผีเสื้อจึง


 ผสมพันธุ์กันได้เฉพาะผีเสื้อชนิดเดียวกัน ผีเสื้อจึงไม่กลายพันธุ์




ผีเสื้อกับดอกไม้




ความสัมพันธ์ของสองสิ่งนี้ไม่อาจแยกขาดกันได้  ในธรรมชาติพืชพรรณไม้หลายชนิด

ได้อาศัยผีเสื้อช่วยในการผสมเกสร  โดยใช้สีสันความงามของกลีบดอก หรือใช้กลิ่นหอม

ดึงดูดให้ผีเสื้อเข้ามาตอมและดูดกินน้ำหวานเป็นสิ่งตอบแทน ขณะเดียวกันเกสรดอกไม้ก็

จะติดตามแข้งขาหรือลำตัวของผีเสื้อ  เมื่อผีเสื้อบินไปเกาะยังดอกอื่น ก็จะช่วยทำให้เกิด

การผสมเกสรขึ้น
อย่างไรก็ตาม ผีเสื้อก็มีส่วนทำลายต้นพืช  เพราะขณะที่ผีเสื้อมีชีวิตอยู่ในขั้นของตัว

หนอนก็จะต้องกินใบหรือส่วนอื่น ๆ ของพืช เพื่อการเติบโตเป็นผีเสื้อและแพร่ขยายพันธ์ต่อไป




การผสมพันธุ์




      ผีเสื้อเพศผู้จะใช้วิธีการในการมองหาเพศเมียเพื่อการผสมพันธุ์ 2 วิธีด้วยกันคือ

            1. ผีเสื้อเพศผู้บินหาเพศเมียที่พร้อมจะผสมพันธุ์ซึ่งมักเป็นที่ที่ผีเสื้อนั้นๆคุ้นเคย
          

  2. ผีเสื้อเพศผู้เกาะอยู่ในที่สูงเเละบินผ่านไปที่เพศเมียอยู่หากเพศเมียพร้อม

ที่จะผสมพันธุ์ เพศผู้จะบังคับเพศเมียลงสู่พื้นเพื่อผสมพันธุ์เเต่หากมีเพศผู้อีกตัวหนึ่งเฝ้า

อยู่ก่อนการต่อสู้จะเกิดขึ้นโดยผีเสื้อเจ้าถิ่นจะบินเเบบควงสว่างเพื่อขับไล่

อ้างอิง  https://sites.google.com/site/butterflykib602/kar-phsm-phanthu

กล้วยไม้


กล้วยไม้


   ดอกกล้วยไม้เป็นสัญลักษณ์ของความมั่งคั่ง   ความรัก และความสง่างาม   



 ซึ่งในปัจจุบันดอกกล้วยไม้ แสดงถึงความประเสริฐ เลิศ  และความงามอัน

 ละเมียดละไม อีกทั้งยังแสดงถึงความไร้เดียงสาขอเด็กๆ   กล้วยไม้สีชมพู

 แสดงถึง รักอันบริสุทธิ์




ความหมายดอกไม้วันครู

            สำหรับ ดอกไม้วันครู คือ ดอกกล้วยไม้ โดยคณะกรรมการจัดงานวันครู พ.ศ.2539 พิจารณาเห็นว่าคุณลักษณะของดอกกล้วยไม้ มีลักษณะและความหมายคล้ายคลึงกับสภาพชีวิตครู นั่นคือ กว่ากล้วยไม้แต่ละช่อจะผลิดอกออกผลให้เราชื่นชมได้ ต้องใช้เวลานานและต้องการดูแลเอาใจใส่ไม่น้อย เช่นเดียวกับครูแต่ละคน กว่าจะสั่งสอนเคี่ยวเข็ญศิษย์คนแล้วคนเล่าให้มีความเจริญงอกงามก้าวหน้าในชีวิตได้ ก็ต้องใช้เวลาอบรมสั่งสอนมิใช่น้อยเช่นกัน

            นอกจากนี้ กล้วยไม้ยังเป็นพืชที่อยู่ในที่สูงทนต่อสภาพดินฟ้าอากาศ ไม่ร่วงโรยง่าย เปรียบเสมือนครูที่อยู่ทั่วแดนไทยที่ต้องอดทนต่อสู้เพื่ออุดมการณ์และอุทิศตนเพื่อการศึกษาของชาติ ดังคำกลอนดอกไม้วันครู ของ หม่อมหลวงปิ่น มาลากุล ศิลปินแห่งชาติ ที่ว่า

            "กล้วยไม้มีดอกช้า ฉันใด
            การศึกษาเป็นไป เช่นนั้น
            แต่ดอกออกคราวไร งามเด่น
            งานสั่งสอนปลูกปั้น เสร็จแล้วแสนงาม"


การปลูกและดูแลรักษาดอกกล้วยไม้ 

            โดยส่วนใหญ่กล้วยไม้เป็นพืชที่ชอบความชุ่มชื้นแต่ไม่แฉะ อุณหภูมิค่อนข้างต่ำ แต่ถ้าอากาศเย็นจัดกล้วยไม้จะพักตัวเจริญเติบโตช้ากว่าปกติ ควรปลูกให้ได้รับแสง 50-60% เครื่องปลูกแตกต่างกันออกไปขึ้นอยู่กับระบบราก เช่น กล้วยไม้ที่มีระบบรากดินและกิ่งดินใช้อินทรียวัตถุที่เน่าเปื่อยผุพังและร่วนซุย กล้วยไม้ที่มีระบบรากอากาศและกึ่งอากาศใช้ ถ่าน กาบมะพร้าว หินเกล็ด อิฐหักหรือทรายหยาบ หรืออาจผูกติดกับต้นไม้ใหญ่ให้รากยึดกับต้นไม้ การรดน้ำควรรดน้ำวันละครั้งแต่อย่าให้แฉะ รักษาความชื้นของเครื่องปลูกให้สม่ำเสมอ





ประวัติดอกกล้วยไม้ 

            กล้วยไม้เป็นพืชวงศ์ใหญ่ มีกว่า 700 สกุล ที่พบในธรรมชาติมีประมาณ 25,000 ชนิด มีการผสมข้ามชนิดและข้ามสกุลมากกว่า 30,000 คู่ผสม กล้วยไม้มีดอกสวยงามหลากหลายสีสัน เป็นที่นิยมปลูกเลี้ยงกันทั่วโลก โดยประเทศไทยเป็นแหล่งกำเนิดพันธุ์กล้วยไม้ที่สวยงามหลายชนิดและมีการพัฒนากล้วยไม้ลูกผสมจำนวนมากขึ้นภายในประเทศ




เรือนเลี้ยงกล้วยไม้


เนื่องจากสภาพแวดล้อมธรรมชาติของประเทศไทย เหมาะสมแก่การเลี้ยงกล้วยไม้ การสร้างเรือนเลี้ยงกล้วยไม้จึงไม่ต้องลงทุน อย่างในประเทศหนาว นอกจากนั้นอาจมีกล้วยไม้ บางชนิดซึ่งสามารถปลูกกลางแจ้งได้ โดยไม่จำเป็นต้องสร้างเรือนกล้วยไม้ เพื่อบังร่มเงาให้เลยก็ได้ นอกจากนั้นในภูมิประเทศ บางแห่งของประเทศไทย เช่น บริเวณชายฝั่งทะเลบางท้องที่ อาจเลี้ยงกล้วยไม้บางชนิดได้โดยไม่ต้องสร้างเรือนกล้วยไม้เลย เพราะการหมุนเวียนถ่ายเทของกระแสลม มีส่วนช่วยลดความ ร้อนจากแสงแดดได้มากพอสมควร ในสภาพเช่นนี้จะปรากฏว่า กล้วยไม้เจริญแข็งแรงและสมบูรณ์ดี เพราะสามารถรับแสงแดด อันเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับชีวิตได้อย่างเต็มที่ โดยไม่มีความร้อน รุนแรง ถึงขั้นเป็นอันตรายต่อกล้วยไม้นั้นๆ







วันจันทร์ที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2557

แบบฝึกหัด 5-6

นางสาวเนตรนภา ศิริเกตุ รหัส 57011010223 สาขาการท่องเที่ยว กลุ่ม 2

บทที่ 5
เรื่อง การจัดการสารสนเทศ

1.      จงอธิบายความหมายของการจัดการสารสนเทศ
:  การทำกิจกรรมหลัก ต่างๆ ในการจัดหา การจัดโครงสร้าง (organization) การควบคุม ผลิต การเผยแพร่และการใช้สารสนเทศที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงานขององค์การทุกประเภทอย่างมีประสิทธิผล ซึ่งสารสนเทศในที่นี้หมายถึงสารสนเทศทุกประเภทที่มีคุณค่าไม่ว่าจะมีแหล่งกำเนิดจากภายในหรือภายนอกองค์การ
2.      การจัดการสารสนเทศมีความสําคัญต่อบุคคลและต่อองค์การอย่างไร
:  การจัดการสารสนเทศมีความสำคัญต่อบุคคลในด้านการดำรงชีวิตประจำวัน การศึกษา และการทำงานประกอบอาชีพ ต่างๆ การจัดการสารสนเทศอย่างเป็นระบบ โดยการจัดทำฐานข้อมูลส่วนบุคคล รวบรวมทั้งข้อมูลการดำรงชีวิต การศึกษา และการทำงานประกอบอาชีพต่างๆ ในการดำรงชีวิตประจำวัน บุคคลย่อมต้องการสารสนเทศหลายด้านเพื่อใช้ชีวิตได้อย่างราบรื่น มีความก้าวหน้า และมีความสุข
การจัดการสารสนเทศมีความสำคัญต่อองค์การในด้านการบริหารจัดการ การดำเนินงาน และกฎหมา
3.      พัฒนาการของการจัดการสารสนเทศแบ่งออกเป็นกี่ยุค อะไรบ้าง
: 2 ยุค เป็นการจัดการสารสนเทศด้วยระบบมือ และการจัดการสารสนเทศโดยใช้คอมพิวเตอร์

    4       จงยกตัวอย่างการจัดการสารสนเทศที่นิสิตใช้ในชีวิตประจำวันมา อย่างน้อย 3 ตัวอย่าง
:    Line   ใช้รับข้อมูลกับเพื่อนๆๆเวลาทำงนกลุ่ม นัดสถานที่ทำงาน
:  Facebook  ใช้เพื่อพบกับเพื่อนเก่าๆๆหรือเพื่อนใหม่ แชร์ อัพเดท  ความเป็นไป ระบุสถานที่
:  ระบบลงทะเบียนมหาลัย  ใช้ดูตารางเรียน ตารางสอบ

บทที่ 6

เรื่อง  การประยุกต์ใช้สารสนเทศในชีวิตประจำวัน



 1. ข้อมูล หมายถึง  : ข่าวสาร เอกสาร ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับบุคคล สิ่งของหรือเหตุการณ์ในรูปแบบของตัวเลข ภาพ ตัวอักษร และสัญลักษณ์ต่างๆ เช่นคะแนนสอบวิชาภาษาไทย ราคาสินค้า จำนวนนักเรียนในโรงเรีย

2. ข้อมูลปฐมภูมิ คือ : เป็นข้อมูลที่ได้มาจากการที่ผู้ใช้เป็นผู้เก็บข้อมูลโดยตรง ซึ่งอาจจะเก็บด้วยการสัมภาษณ์หรือสังเกตการณ์ เป็นข้อมูลที่มีความน่าเชื่อถือมากที่สุด เนื่องจากยังไม่มีการเปลี่ยนรูป และมีรายละเอียดตามที่ผู้ใช้ต้องการ แต่จะต้องเสียเวลาและค่าใช้จ่ายมาก
ยกตัวอย่างประกอบ  :  ข้อมูลที่ได้จากการนับจำนวนรถที่เข้า - ออก มหาวิทยาลัยในช่วงเวลา 08.00 - 09.00 น . ข้อมูลจากการสัมภาษณ์นักศึกษา

3. ข้อมูลทุติยภูมิ คือ : เป็นข้อมูลที่ได้มาจากแหล่งข้อมูลที่มีผู้เก็บรวบรวมไว้แล้ว เป็นข้อมูลในอดีต และมักจะเป็นข้อมูลที่ได้ผ่านการวิเคราะห์เบื้องต้นมาแล้ว ผู้ใช้นำมาใช้ได้เลย จึงประหยัดทั้งเวลาและค่าใช้จ่าย บางครั้งข้อมูลทุติยภูมิจะไม่ตรงกับความต้องการหรือมีรายละเอียดไม่เพียงพอ นอกจากนั้นผู้ใช้จะไม่ทราบถึงข้อผิดพลาดของข้อมูล ซึ่งอาจจะทำให้ผู้ที่นำมาใช้ สรุปผลการวิจัยผิดพลาดไปด้วย 
ยกตัวอย่างประกอบ :  สถิติการเกิดอุบัติเหตุโดยรถจักรยานยนต์ของนักศึกษาในปี 2540 - 2541 เป็นข้อมูลที่บางครั้งอาจถูกแปรรูปไปแล้ว แต่เนื่องจากบางครั้งเราไม่สามารถที่จะจัดเก็บข้อมูลปฐมภูมิได้เราจึงต้องศึกษาจากข้อมูลที่มีการเก็บรวบรวมไว้แล้ว

4. สารสนเทศ หมายถึง : ข้อมูลต่างๆ ที่ได้ผ่านการเปลี่ยนแปลงหรือมีการประมวลผลหรือวิเคราะห์สรุปผลด้วยวิธีการต่าง ๆแล้วเก็บรวบรวมไว้ เพื่อนำมาใช้ประโยชน์ตามต้องการการประมวล (Data Processing)เป็นการนำข้อมูลจากแหล่งต่างๆที่เก็บรวบรวมไว้มาผ่านกระบวนการต่างๆเพื่อแปรสภาพข้อมูลให้เป็นระบบและอยู่ในรูปแบบที่ต้องการ


5. จงอธิบายประเภทของสารสนเทศ :สารสนเทศได้เป็น 4 ประเภท  ดังนี้
1.     ระบบสารสนเทศสำหรับระดับผู้ปฏิบัติงาน (Operational – level systems)   ช่วยสนับสนุนการทำงานของผู้ปฏิบัติงานในส่วนปฏิบัติงานพื้นฐานและงานทำรายการต่างๆขององค์กร เช่นใบเสร็จรับเงิน  รายการขาย  การควบคุมวัสดุของหน่วยงาน เป็นต้น  วัตถุประสงค์หลักของระบบนี้ก็เพื่อช่วยการดำเนินงานประจำแต่ละวัน และควบคุมรายการข้อมูลที่เกิดขึ้น
2.     ระบบสารสนเทศสำหรับผู้ชำนาญการ (Knowledge-level systems)  ระบบนี้สนับสนุนผู้ทำงานที่มีความรู้เกี่ยวข้องกับข้อมูล   วัตถุประสงค์หลักของระบบนี้ก็เพื่อช่วยให้มีการนำความรู้ใหม่มาใช้ และช่วยควบคุมการไหลเวียนของงานเอกสารขององค์กร
3.      ระบบสารสนเทศสำหรับผู้บริหาร (Management - level systems)  เป็นระบบสารสนเทศที่ช่วยในการตรวจสอบ   การควบคุม การตัดสินใจ และการบริหารงานของผู้บริหารระดับกลางขององค์กร
4.     ระบบสารสนเทศระดับกลยุทธ์ (Strategic-level system)   เป็นระบบสารสนเทศที่ช่วยการบริหารระดับสูง ช่วยในการสนับสนุนการวางแผนระยะยาว  หลักการของระบบคือต้องจัดความสัมพันธ์ระหว่างสภาพแวดล้อมภายนอกกับความสามารถภายในที่องค์กรมี เช่นในอีก 5 ปีข้างหน้า องค์กรจะผลิตสินค้าใ

จงเติมในช่องว่างว่าข้อใดเป็นข้อมูล หรือสารสนเทศ
6. ข้อเท็จจริงของสิ่งต่าง ๆ ที่อาจเป็นตัวเลข ข้อความ รูปภาพ เสียง คือ : ข้อมูล
            7. ข้อมูลที่ผ่านการประมวลผล เป็น : สารสนเทศ
8. ส่วนสูงของเพื่อนที่ถามจากเพื่อนแต่ละคน เป็น :  ข้อมูล
9. ผลของการลงทะเบียน เป็น  : สารสนเทศ
           10. กราฟแสดงจำนวนนิสิตในห้องเรียนวิชาวิชาการจัดการสารสนเทศยุคใหม่ในชีวิตประจำวันSection วันอังคาร เป็น : สารสนเทศ

หมายเหตุ : แบบฝึกหัดที่ 7 ซ้ำกับที่ 6 เลยไม่ทำค่ะ





กาแฟ


กาแฟสด




กาแฟสด คือ กาแฟที่ไม่ได้ผ่านการดัดแปลงใดๆเป็นเมล็ดกาแฟแท้ 100 % ที่ผ่านการคั่ว โดยไม่มีวัตถุใด ๆ เจือปน โดยผู้คั่วกาแฟ จะเป็นผู้นำสารกาแฟ หรือเม็ดกาแฟดิบที่เก็บจากไร่ นำมาตากให้แห้ง แล้วนำเข้าสู่กระบวนการคั่วตามสูตรของแต่ละคน จนได้กาแฟสดแท้ออกมา ขั้นตอนการคั่วกาแฟนั้น เป็นสูตรของแต่ละเจ้าของกาแฟสดเลยทีเดียว กาแฟสดเป็นการชงแก้วต่อแก้ว ผ่านการคั่ว การบดตามขั้นตอนก่อนชงกาแฟสด จะไม่เหมือนกรณีกาแฟสำเร็จรูปในท้องตลาดที่เทลงแก้วละลายด้วยน้ำร้อน แล้วดื่มได้เลย กาแฟสดจะมีขั้นตอนต่างๆมากกว่านี้ ประการสำคัญคือการเน้นความสดเป็นหลัก ทั้งคั่วสดใหม่ บดสดๆ ไปจนถึงการชงสด


ประโยชน์ของกาแฟ
- ลดอัตราเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจในผู้หญิง
- ลดอัตราเสี่ยงของการเป็นเบาหวาน
- ลดอัตราการเกิดภาวะความจำเสื่อม
- ลดอัตราเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็งในลำไส้ใหญ่
- ลดความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็งต่อมลูกหมาก
- ลดความเสี่ยงของการเป็นอัลไซเมอร์ (Alzheimer)
- ลดความเสี่ยงของการเป็นตับแข็ง
- ลดความเสี่ยงของการเป็นนิ่วในถุงน้ำดี
- ลดความเสี่ยงของการเกิดการอุดตันในเส้นเลือดในผู้หญิง
- ลดความเสี่ยงของการเกิดอาการสั่นของอวัยวะจากระบบปราสาท
- ช่วยแก้อาการเมาจากการดื่มสุรา เพราะคาเฟอีนจะช่วยสลายแอลกอฮอล์ได้
- กาแฟมีสารต้านอนุมูลอิสระสูง ซึ่งสารต้านอนุมูลอิสระจะช่วยซ่อมแซมเซลต่างๆในร่างกายที่ถูกทำลายจากอนุมูลอิสระ